พบ "ดักแด้หิน" มรดกตกทอดนับหลายรุ่น เชื่อเป็นของขลังโบราณจากยุคดึกดำบรรพ์
การค้นพบวัตถุโบราณที่ไม่ธรรมดา
เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการค้นพบ "ดักแด้หิน" วัตถุโบราณที่เชื่อว่าเป็นของขลังอันทรงคุณค่า ซึ่งมีความเชื่อว่าใครที่ได้ครอบครองจะมีโชคลาภและความเจริญก้าวหน้า โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ นางภัทรวดี เอี่ยมประเสริฐ อายุ 69 ปี ในจังหวัดสกลนคร เพื่อตรวจสอบดักแด้หินที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
เรื่องราวของมรดกตกทอด
คุณป้าภัทรวดีเล่าว่า ดักแด้หินคู่นี้เป็น มรดกตกทอด ที่ได้รับมาจากพ่อสามีเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ซึ่งถูกมอบให้เป็นของขวัญต้อนรับเธอในฐานะสะใภ้ของครอบครัว และยังเชื่ออีกว่าดักแด้หินนี้มีทั้ง ตัวผู้และตัวเมีย โดยตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่านิ้วกลางและยาวประมาณ 2 นิ้ว ส่วนตัวเมียมีขนาดใกล้เคียงกับนิ้วก้อยและยาวเกือบ 2 นิ้ว ทั้งคู่มีสี น้ำตาลปนดำ และมีลักษณะภายนอกคล้ายแมลงจั๊กจั่น ดักแด้หินนี้ถูกเก็บรักษาอย่างดีบนหิ้งพระ และบางครั้งจะถูกนำไปเก็บในตู้นิรภัยของธนาคารเพื่อความปลอดภัย
ความเชื่อเกี่ยวกับดักแด้หิน
ที่มาของดักแด้หิน นั้น คุณป้าเล่าว่า มรดกชิ้นนี้ถูกค้นพบโดยบรรพบุรุษที่เป็นหมอยาโบราณ ขณะออกไปขุดหารากไม้ทำยาในจังหวัดมหาสารคาม ดักแด้หินนี้ถูกส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคน จนถึงมือคุณป้าในที่สุด ซึ่งชาวสายมูเตลูเชื่อว่า ดักแด้หินเป็นของขลังที่ช่วยเสริม โชคลาภ และ ความเจริญในด้านค้าขาย นอกจากนี้ยังคุ้มครองผู้ครอบครองจากอันตรายและเสริมมนตร์เสน่ห์
ความพิเศษของดักแด้หิน
ความพิเศษของดักแด้หิน นี้คือการเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยเชื่อว่ามีอายุประมาณ 200 ล้านปี และเป็นหนึ่งในวัตถุที่เรียกว่า "คต" ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสก คล้ายกับเหล็กไหล คตดักแด้หินถือเป็นหนึ่งในของธรรมชาติที่เกิดจากการแปรธาตุของพืชหรือสัตว์กลายเป็นหิน เช่น คตขนุน คตด้วง หรือคตหน่อไม้
สรุป
การค้นพบดักแด้หินคู่นี้ไม่เพียงเป็นมรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อในวัตถุโบราณที่สืบทอดมาเป็นเวลานาน โดยชาวสายมูเชื่อว่าใครที่ได้ครอบครองจะมีโชคดีในชีวิต ทั้งด้านการงานและความเป็นอยู่